The Fault in our stars
ความคลาดเคลื่อนของดวงดาว
(U.S,2013,Josh boone)
บทวิจารณ์ และ วิเคราะห์
มีภาพยนต์ไม่กี่เรื่องนักที่มันจะมีอารมณ์และความรู้สึกติดค้างหลังจากดูจบ มันอินจริงๆนะ มันช่างเป็นบทกวีรักที่เศร้าสร้อยและสวยงามมาก
สมกับที่ผมรอคอยมานาน ในที่สุดลัพธ์คือความอิ่มเอมใจเมื่อดูหนังเรื่องนี้จบ ชอบมากครับ มันเป็นเรื่องของชายหญิงคู่หนึ่งที่พยายามโหยหาความรัก ในห้วงเวลาสุดท้ายของชีวิตที่พวกเขาเหลืออยู่ ทั้งคู่เป็นมะเร็ง
ในความระทมทุกข์ดูเหมือนว่าตัวละครทั้งสองไม่ยอมที่จะจมจ่อมอยู่ในโลกอันแสนมืดมน พวกเขาพยามที่จะหนีจากพื้นที่ตรงนั้นออกมา ทำตัวเองให้มีความสุขตลอดเวลา ให้กำลังใจกันและกัน มันมีความสว่างอยู่นะเพียงแต่มันถูกซ่อนอยู่ในความมืดหม่นที่ปกคลุมตัวละครทั้งสอง หนังไม่ได้พาคนดูไปเจอกับความโชคร้าย ชะตากรรม ความยากลำบาก หรือความเศร้าหมองที่ตัวละครต้องเจอมากนัก แต่เลือกที่จะเล่าในแบบ romance หวานซึ้ง มองโลกในแง่ดี ให้กำลังใจตัวละครและคนดูมากกว่า
ผมมองว่า ตัวละครชายและหญิง พวกเขาพยามที่จะเดินอยู่ในกรอบโลกของความรัก ให้ได้นานที่สุด ถึงแม้พวกเขาจะรู้อยู่แก่ใจว่าอีกไม่นานต้องมีใครคนใดคนหนึ่ง หรือทั้งสองต้องตายจากกัน ผมชอบที่มันเป็นการโหยหาความรักแบบไม่มีที่สิ้นสุด (Love in infinity)
หนังไม่ได้มุ่งไปแค่ความรักของเด็กสาวและชายหนุ่มอย่างเดียว พวกเขาทั้งสองยังมีพ่อและแม่ของพวกเขา คอยให้กำลังใจและอยู่เคียงข้างตลอด มันทำให้รู้สึกว่า ตัวละครมันไม่ได้เดินอยู่บนโลกเพียงลำพังนะ รอบๆตัวยังมีความรักที่ห่อหุ้มพวกเขาอยู่ อาจเพียงแค่พวกเขาโชคร้ายที่ต้องมาเจอแบบนี้มากกว่าเท่านั้นเอง
ฉากและแสงสวยมากสำหรับหนังเรื่องนี้ สมกับที่เป็นหนังที่ถูกทำต่อจากหนังสือนวนิยายรัก
ปล ชื่อและที่มาของเรื่องทำไมถึงหนังเรื่องนี้ถึงใช้ชื่อว่า The fault in our stars
Fault ถ้าแปลเป็นภาษาไทยหมายถึง ความคลาดเคลื่อน หรือ ผิดแปลกออกไป
ในเรื่องนี้เป็นความรักของคนสองคนที่ยังไงก็ตามมันไม่สามารถที่จะรักกันได้ตลอด เพราะเขทั้งคู่เป็นผู่ป่วย มันมีสิ่งที่ทำให้คนสองคนต้องคลาดและแยกออกจากกัน our stars อาจเปรียบเทียบกับ ความรักของคนทั้งสอง เมื่อมารวมกีนแล้ว จึงหมายความว่า ความรักของชายหญิงที่ยังไงก็ต้องคลาดเคลื่อนเลื่อนออกจากกัน
คะแนน A