วันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

โลกของมนุษย์เพศแม่ " Tag อวสานโมเอะ

Tag อวสานโมเอะ 


 โลกของมนุษย์เพศแม่

(Japan, 2015, Sion sono)


บทวิจารณ์ และ วิเคราะห์


นี่คือหนังที่เรารอมามากที่สุดในปีนี้ แล้วก็ได้ดูสมใจ งานใหม่ของ ชิออน โซโนะ ผู้กำกับ suicide club , noriko diiner table , himizu ที่พูดมาเป็นหนังที่ผ่านตาผมมาแล้วทั้งนั้น แล้วก็ชอบทั้งหมดด้วย
มาเรื่องใหม่ Tag ยังคงเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง การมองโลกแบบวิปริต บิดเบี้ยว ของตัวละคร ฉากเลือดสาดกระจายเต็มจอ แต่ด้วยความที่มันมีอารมแบบมังงะ แฟนตาซี ทำให้ดูแล้วรู้สึกเหมือน โลกในจินตนาการที่โหดร้าย ที่ถูก setขึ้นมาอีกที
การเสียดสีโลกของผู้ชายที่มีต่อโลกของผู้หญิง เพราะฉะนั้น เรื่องราวต่างๆในหนัง เกิดจากการควบคุมโดยระบบความคิดผู้ชายอีกที ว่า ผู้หญิงเป็นเพศที่อ่อนแอ นึกจะทำอะไรก็ได้ เห็นเป็นเรื่องสนุกไปหมด เพราะฉะนั้น ผู้ชายกำลังบอก ผู้หญิงว่า ในอนาคต พวกผู้หญิงต้องสูญพันธ์โดยน้ำมือผู้ชาย ฉันจะควบคุมเธอทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น กรที่เราจะเห็นภาพกระโปรงนักเรียนหญิงเปิดเพราะลมพัด อาจเป็นภาพความคิดที่ผู้ชายอยากจะสร้างขึ้นมา เพื่อสนองระบบความคิดทะลึ่งๆออกมา การเห็นร่างเธอขาดสองท่อน อาจจะเป็นความสะใจหรือหมั่นไส้ในความเป็นผู้หญิงลึกๆ สวยแล้วไงวะ ก็ตายได้เหมือนกัน
ทั้งหมดทั้งมวลอาจเป็นสิ่งที่มนุษย์เพศพ่ออยากที่จะจินตาการสิ่งเหล่านี้ขึ้นมา เพื่อจะจิกกัดเพศหญิง อยากจะเป็นผู้ล่า การที่ตัวละครผู้หญิงวิ่งหนีนั้น อาจหมายถึง พวกเธอเป็นเพศที่ถุกตามล่าอยู่ตลอด




สิ่งที่ชอบนั้นมีมากมายเหลือคณานับในหนัง ไม่ว่าจะเป็น ตัวละคร ที่เอาโลกของมนุษย์เพศแม่ มาจิกกัดได้แบบ น่าสนใจ
บทกวีของการมองชีวิต สิ่งต่างๆ ความเป็นไปในจักรวาล จากคำพูดตัวละคร
ฉากต่างๆที่ทำออกมาได้เท่เหลือเกิน รวมไปถึง soundtrack ที่ใช้ดนตรี post rock มาสร้างบรรยากาศทำให้หนังดู มีเสน่ห์ และงดงาม โอ้ยหนังเรื่องนี้ทำเพื่อเราขนาดนี้เลยเหรอ
โดยรวมแล้ว tag นั้นถือเป็นหนังที่ค่อนค่างจะแปลกพอสมควร และดูสนุก

คะแนน  A





" เราจะบ้าด้วยกันตลอดไป " Silver lining playbook

Silver lining playbook


" เราจะบ้าด้วยกันตลอดไป"

(U.S.A,2012,david o russell)


บทวิจารณ์ และ วิเคราะห์


ไม่แปลกเลยที่ หนังจะชนะ ออสการ์ ในสาขา นักแสดงยอดเยี่ยม 
ตัวละคร performance ออกมาได้โครตทรงพลัง มันไม่ใช่หนังดีอะไรหรอก แต่เราก็ไม่ได้บอกว่า หนังไม่ดีเราจะไม่ชอบ เหมือนการทีเราออกไปทานผัดกระเพรา เรารู้ว่ามันเป็นเมนูที่ใครๆก็ทานไม่แปลกใหม่ ทำไมเราจึงอร่อยกับมัน เราดูหนังเรื่องนี้เราได้ความรู้สึกนั้นกลับมาครับ
เอาใจเราไปเลย พระเอกและนางเอก เรารู้สึกว่ามันเหมือนกับโลกของพวกเขาจริงๆ เมื่อเขาแสดง
หนังพูดถึงคนป่วยทางจิต 2 คน ไอ้ตาพระเอก เมียมีชู้ จิตตก กำลังอยู่ในช่วงรักษา ดื้อรั้นออกมาจากสถานบำบัด และอ้างว่า ตัวเองว่า หายแล้ว และชอบวิ่งออกกำลังกายตอนเช้า ที่แปลกไปกว่านั้นคือ ชอบเอาถุงขยะสีดำมาสวมเป็นุชุดออกกำลังกาย
อีนางเอก นี่ เพี้ยนพอกัน ผัวตาย เลยทำตัวสำส่อนมีอะไรกับคนในออฟฟิสมานับไม่ถ้วน จนโดนไล่ออกจากงาน จิตตกเพิ่งออกจากโรงพยาบาล

เมื่อคนบ้าๆมาเจอกัน ทั้งคู่ก็เยียวยากันและกัน ในโลกบ้าๆบอๆ ของคนป่วยๆ
หนังไปทางตลกและเบาสมองส่วนใหญ่ ซึ่งไอ้ความตลกมันก็จัดการเราได้แบบราบคาบเลย มันเต็มไปด้วยบทสนทนาที่บ้าบิ่น ในขณะเดียวกันเราก็อดที่จะสงสารกับความเป็น loser ไม่ได้
รวมๆแล้วเด่นในเรื่องของ อารมณ์และการแสดง ครับ สรุปแนะนำเลยครับ เพราะหนังเรื่องนี้มันไม่ได้เลือกคนดู แต่พร้อมที่จะไปหาทุกคน

คะแนน  B+


วันอาทิตย์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

" เธอคือลมหายใจ" A Simple Life

A Simple Life




" เธอคือลมหายใจ"

(Chinese,2012,Ann Hui)


บทวิจารณ์ และ วิเคาระห์

งดงาม จนน้ำตาไหล เรารู้สึกถึงความอิ่มเอมที่มันช่างพลั่งพลูออกมา เสียจริงๆ บอกเลยเราแพ้ทางหนังแบบนี้ ไอ้ความเรียบงายของมันค่อยๆ พาเราเหมือนไปเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวนี้
อาหลิว ในเรื่องเล่นเป็น ชายหนุ่มที่ต้องดูแล คนรับใช้ (อาเตา) ที่เป็นคนเก่าแก่ในบ้าน เนื่องจากเธอเส้นเลือดในสมองแตก ส่งผลกับร่างกายระบบกล้ามเนื้อ การเคลื่ฮนไหว อาหลิวต้องคอยทำโน่นทำนี่ให้ หาที่อยู่ ว่างจากงานก็พาเธอออกไปเดินเล่น ไปเที่ยวกินร้านอาหารดีๆ
เรารักความสัมพันธ์ของ ตัวละครสองคน เรารู้สึกว่า มันเป็นเหมือนป้ากับหลานมากกว่า เจ้านาย กับ คนใช้ เรารู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ของ คำว่า family แม้กระทั่งแม่คุณ หลิวก็ทำกับ อาเตาเหมือนพี่กับน้อง


หนังเป็นมิตรกับคนดูอย่างเรามาก และผมก็เชื่อว่าทุกคนที่ได้ดูคงจะรู้สึกเช่นกัน หนังสามารถเก็บ detail เล็กๆน้อยๆ บรรยากาศต่างๆ อารมณ์แบบ homesick เหงาๆ ได้ดีเยี่ยม ฉากแฟลตตอนฉลองปีใหม่ในจีน ภาพตอนจุดพลุ เราชอบมาก
เราชอบที่simple life ยัง ให้พื้นที่สำหรับตัวละครชายขอบ นั่นคือ คนชรา การพูดถึงบ้านพักคนชรา สมาคม เพื่อน มิตรภาพของคนที่เข้าไปอยู่ กิจกรรมต่างๆ ความช่วยเหลือที่ดูเหมือนครอบครัวจริงๆ ถึงแม้ว่ามันจะไม่เหมือนบ้านจริงๆก็เหอะ เรารู็สึกว่าหนังมันใส่ใจในจุดนี้
สรุปแล้วหนังเรื่องนี้เหมาะแก่การดู อย่างยิ่ง และจะเหมาะมากถ้าได้ดูกับคุณย่าคุณยาย หรือใครที่มีญาติเป็นคนเฒ่าคนแก่ พาท่านไปดูซะ

คะแนน  A


คนที่เราไม่คาดคิด มักทำสิ่งที่ไม่คาดคิด " The imitation game

The imitation game




"คนที่เราไม่คาดคิด มักทำสิ่งที่ไม่คาดคิด

(U.K,2014, Morten Tyldum)


บทวิจารณ์ และ วิเคราะห์


งจะเป็นวลีเด็ดที่สุดสำหรับผมในหนังชีวประวัติเรื่องนี้ เห็นเขาบอกต้องดูให้ได้ แล้วเราก็พบว่า มัน อัศจรรย์มาก มันมีหลายตรงที่เราคิดว่า หนังมันขับเคลื่อนเราอยู่ตลอด
เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นในช่วงสงครามยุโรป อังกฤษ เยอรมัน และโซเวียต คุณ ทูริ่ง นักคณิตศาสตร์ชาวอังกฤษ ที่ประดิษฐ์ เครื่องถอดรหัส ชื่อว่า คริสโตเฟอร์ ซึ่งมารู้อีกที ชื่อเครื่องนี้มีที่มาจาก เพื่อนชายคนสนิทของเขาสมัยตอนเรียนโรงเรียนประจำเมื่อเขายังเด็ก เมื่อเขาได้ไปทำงานใน สถานีวิทยุของรัฐบาล กับเพื่อนอีก 3 คน และนางเอก 1 ในนั้น มี แชมป์หมากรุกอยู่ด้วย ทั้งหมดแล้วเก่งในเรื่องเกี่ยวกับ ปริศนาเกมอักษรไขว้ ทั้งหมดร่วมมือกัน ถอดรหัสอีนิกมา ที่ใช้ในการหยุดการโจมตีขอเยอรมัน ก่อนที่ ทูริ่ง จะถูกจับข้อหา เป็น รักร่วมเพศ และปลิดชีพตัวเองในที่สุด

สิ่งที่เราชอบ คือ บรรยากาศของมัน เรารู้สึกถึงปมบางอย่างที่ ดูแล้ว คุณทูริ่ง เป็นบุคคลที่น่าสงสารมาก มันมีความหลังและแผลขนาดใหญ่ที่เรามองว่า เขาเป็นอัจริยะที่มีชีวิตในแบบคนธรรมดามองว่า เก่ง พระเจ้า แต่ถ้ามองอีกมุมลับ คุณทูริง ก็คือ loser ที่พยายามเอาความสามารถที่เขามีอยู่ในเรื่อง การคำนวณ ความเป็นอัจริยะที่คนธรรมดาทำไม่ได้ มาหักลบ จุดด้อยในชีวิต แน่นอนว่าสิ่งที่เจ็บปวดมาทั้งชีวิตของเขาคือการ เก็บความลับเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวเขา
เราชอบที่หนังไม่ได้ ยกย่อง เชิดชู ความเป็นอัจริยะ ของตัวเอก แบบ มุมของ hero ด้านเดียว ว่าเขาคือเบื้อหลังผู้ทำให้อังกฤษชนะสงคราม เพียงเพราะความเป็น true story ที่ทำให้เราเห็นปมหลังอีกด้านของพวก อัจริยะ ว่า ชีวิตแท้ๆ แม่งไม่ได้สวยงามเลย
เมื่อคุณมีสิ่งนี้ พระเจ้าก็ขอสิ่งนี้จากคุณไป คุณจะไม่สามารถได้อะไรไปเพียบพร้อมหลอก นั่นคือกฏของจักรวาลที่ให้มนุษย์มาแล้ว
soundtrack ก็เด่น ดีจัง
ความสัมพันธ์ระหว่าง คุณทูริง กับ โจน เราชอบตอนที่เธอบอกกับเขาว่า ไม่มีอะไรที่ perfect หรอก ถ้าแต่งงานกันไป เธอคงไม่ใช่ภรรยาที่สมบูรณ์ คุณก็คงไม่ใช่สามีที่สมบูรณ์ แต่เราจะอยู่กันแบบคู่คิดตลอดไป เราว่ามันเป็นความสัมพันธ์ที่ดีกว่าหลายๆคู่ เออเจ๋งวะ
สรุปว่าหนังดีมากครับ แนะนำเลย

คะแนน  A





วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Inside out

Inside out


(U.S.A,2015, Pete Docter)


บทวิจารณ์ และ วิเคราะห์


โห แม่งเทพวะ มันเป็นโลกของอารมณ์อันแสนจะงดงาม เราไม่ได้สัมผัส animation ดีๆ ใช้คำว่าโครตดีแบบนี้มานานมากแล้ว ถ้านับตั้งแต่ toy 1 และเราก็ไม่เจออีกเลย จนมาถึง inside out ทำให้โลก animation ชั้นครูกลับมาแล้วครับ 5555
ในการย้ายบ้าน ย้ายเมือง สถานที่ใหม่ๆ เพื่อนใหม่ๆ ดูเหมือนจะเป็นโลกอันโหดร้ายสำหรับเด็กสาวอายุ 11 ปี ไรลี่ย์ เด็กสาวหน้าตาน่ารัก จาก มิโซต้า เมืองหนาว ในเรื่อง เด็กที่นี่จะเล่นกีฬา hockey รวมไปถึงครอบครัวน้องด้วย ต้องย้ายมาใน ซานฟรานซิตโก ตั้งแต่เข้ามาในบ้านหลังใหม่ จากที่เป็นเด็กสาวที่สดใส ทะเล้น ก็เปลี่ยนเป็นเด็กที่ก้าวร้าวและไม่มีความสุข เป็นหน้าที่ของเหล่าอามรณ์ ที่ต้องควบคุม พร้อมการเปลี่ยนแปลงแห่งห้วงวัย


เรามองว่ามันมีความเป็น coming of age อยู่พอสมควร การเปลี่ยนแปลงทางควมคิด และวัย รวมไปถึง การเรียนรู้โลกของเด็กสาว
เราหลงรักตัวการ์ตูนทั้งหมดในเรื่อง โดยเฉพาะเจ้าอารมณ์ทั้ง 5 ไม่ว่าจะเป็น คุณลั๊ลล๊า( ตัวสีฟ้า )ตัวแทนแห่งความสุข พยายามขับเคลื่อนเป็นตัวหลัก , คุณซึมเศร้า (ตัวสีฟ้าใส่แว่น) จะคู่ไปกับตัวความสุข , คุณฉุนเฉียว ( ตัวสีแดง)ตัวแทนแห่งความโกรธ ไม่พอใจจะแสดงออกมา , คุณกลั๊วลลัว ( ตัวสีม่วง )ตัวแทนแห่งความกลัว ใช้ในการยับยั้งชั่งใจ , คุณหยะแหยง (ตัวสีเขียว) ตัวนี้มันออกดูเย้ยๆ หยิ่งๆไงไม่รู้55 ตัวการ์ตูน ช้างสายไหมโลมา ที่เป็นตัวแทนแห่งจินตนาการในความคิดเด็กสาว รวมไปถึง แผนผังรวมภายในจิตใจ เช่น รถไฟความคิด , เกาะบุคลิกภาพ , ชั้นใต้ดินของจิตใต้สำนึก การควบคุมความฝัน- การตื่นนอน และ ลูกแก้วความทรงจำต่างๆ
สิ่งที่น่าชื่นชมคือ inside out มันจับเอาเรื่องของอารมณ์โคร้งสร้างองค์ประกอบภายในตัวมนุษย์ทั้งหมด เอามาเล่นเป็นการ์ตูน ผมมองว่าแม่งเหนือชั้นมาก และที่น่าชื่นชมไปกว่านั้นคือ แม่งเอาเรื่องที่ดูแล้วซับซ้อน แต่มาเล่าให้คนดูสามารถเข้าใจง่ายๆได้ นั้นคือความเก่ง โดยที่คนดูไม่ต้องปะติดปะต่อไรมาก มันทำปฎิกริยากับเราแบบอัตโนมัติ และก็อินไปกับมันทุกฉาก
งานภาพต้องให้เราพูดอีกเหรอ 555
หนังแม่งเล่นเราน้ำตาร่วงหลายฉากมาก และอมยิ้มไปกับมัน เราชอบ เกาะติ๊งต๊อง ของเด็กสาวมาก ไม่ต้องไรหรอก แค่เรามองคุณน้อง ไรลี่ย์แล้วเราก็หลงรักมันตั้งแต่ต้นเรื่องแล้ว
สรุปในความคิดเรามองว่า อารมณ์ทั้ง 5 มันสำคัญหมด เพราะมันอยู่ในตัวของคนเรา ซึ่งมีทั้งสุข เศร้า โกรธ กลัว หยะแยง ซึ่งจะขาดตัวใดตัวหนึ่งไม่ได้แน่
ปล ชนะออสการ์ปีนี้ไปเลยนะเรื่องนี้ เราเชียร์

คะแนน  A+