(Sweden,2002,Lukas Moodysson )
บทวิเคราะห์ และ วิจารณ์
" ฉันอยากที่จะโบยบินไปให้ห่างจากดินแดนนี้ ไปในดินแดนที่มีชีวิตชีวากว่านี้ ไปอยู่กับพ่อแม่ของฉัน
ชีวิตฉันคงจะดีกว่านี้ "
Lidya 4 EVER หนังสวีเดนสุดหม่น ว่าด้วยเรื่องราวของเด็กสาวที่เติบโตในดินแดนที่อยู่ใน สหภาพโซเวียตเมืองที่แล้งแค้น อดอยาก หนาวเหน็บ ไร้ผู้คนอาศัยอยู่ ถ้ามีอยู่ก็จำนวนน้อยมาก ดินแดนที่ไร้การพัฒนา เป็นเมืองที่ตายไปแล้ว เธอฝันว่าอยากที่จะไปอยู่กับแม่ของเธอที่อเมริกา แต่ความฝันก็เป็นได้แค่ภาพวาดในจินตนาการที่ไม่มีอยู่จริง เธออาศัยไปวันๆ ได้รู้จักกับเพื่อน ตัวน้อยเด็กหนุ่มซึ่งเป็นเพื่อนรุ่นน้องของเธอ อาศัยอยู่ใกล้บ้านของเธอ เขาชอบมาโยนกระป๋องเล่น แทนลูกบาส
เขาทั้งสองต้องเผชิญชะตาชีวิตในเมืองอันแล้งแค้นนี้ และฝันว่าซักวันพวกเขาสองคนจะหนีอออกไปในดินแดนเหล่านี้ให้ได้
ชีวิตโสเภนีของเด็กสาว ปัญหาสังคม
เราจะเห็นได้ว่าโสเภนีเด็กสาวในสังคมปัจุบันก็มีให้เห็นกันพอสมควรอาจจะไม่เยอะมาก สาเหตุก็อาจมาหลากหลายของปัญหา ตัวละครในหนังเรื่องนี้เป้นเด็กสาวที่ขาดความอบอุ่น จากพ่อและแม่ และสภาพแวดล้อมในเมืองแย่ๆ ที่ผมมองว่ามันสามารถจะดึงเธอให้อยู่ในวังวนแบบนี้ไม่ยาก มั่วเซ็ก เสียตัว หรือ เสพยา ไปจนขนาดฆ่าตัวตาย
หนังเรื่องนี้ผมมองว่ามันหม่นในระดับสูงถึงสูงที่สุด ด้วยเนื้อหาและเรื่องราว เธอต้องขายบริการชายวัยผู้ใหญ่ และ วัยชรา จำนวนมากมายนับไม่ถ้วน เพื่อให้ได้เงินนั้นไปเสพสุข หรือทำชีวิตให้ดีขึ้น แต่สิ่งนั้นมันยิ่งทำให้เธอดำดิ่งลงเหวมากขึ้นทุกที ดูเหมือนหนังก็จะดึงอารมณ์คนดูให้ไปถึงขั้นพีค ว่า ทำไมตัวละครตัวนี้แม่งไม่ตายไปตั้งแต่ตอนแรกวะ จะได้ไม่มามีชีวิตที่ทรมานขนาดนี้ แต่ถึงอย่างไรหนังมันก็ไม่ได้ลดความดาร์กลงไปเลย ยิ่งดำเนินเรื่องไปเท่าไหร่ ยิ่งดาร์กมากขึ้นเลยๆ เพียงแต่มันไม่มีฉากน่ากลัวเท่านั้น มันดาร์กในเรื่องของจิตใจ ของตัวละคร
เด็กดมกาว
ตัวละครที่ต้องเผลิญชะตาชีวิตกับ เด็กสาว ก็คือ เด็กหนุ่มน้อยข้างบ้าน ที่ฝันวาอยากเล่นบาสเกตบอล และมีลูกบาสเป็นของตัวเอง ที่วันๆ ก็เอาแต่ดมกาว เขามากจาก สวีเดน แต่ถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพังคนเดียว ซึ่งการดมกาวก็เป็นเหมือนเพื่อนคลายเหงา และเป็นสิ่งที่ดูเหมือนจะทำให้ชีวิตเขาหลุดพ้นจากความทุกข์ชั่วขณะ
แต่สิ่งที่พอจะทำให้ตัวละครสองคนมีความสุขอยู่บ้าง อาจเป็นเรื่องของมิตรภาพความสัมพันธ์ของตัวละครสองคัวนี้ ที่ดูเหมือนว่าจะรักกันมากๆ พวกเขาคงไม่อยากเผชิญชีวิตที่โหดร้ายเพียงลำพัง คิดว่าอย่างน้อยก็มีเพื่อนร่วมชะตากรรมเดียวกัน มันเป็นสิ่งที่ทำให้พวกเขาอยากที่จะต่อสู้ไปด้วยกัน และหนีไปจากดินแดนสีเทาแห่งนี้
สิ่งที่ผมชอบในหนังเรื่องนี้คงเป็นเรื่อง ความดาร์กในเนื้อหา นี่แหละที่ผมคิดว่า ดูหนังเรื่องนี้แล้วโครตสะใจเลย ทำไมมันช่างดาร์กแบบนี้ แล้วก็ ความขัดแย้งภายในจิตใจกับโลกความเป็นจริง ของตัวละคร สิ่งที่เขาฝันช่างสวยงาม สิ่งที่ตัวละคร วาดมโนภาพในจิตใจของเขาในแง่ดี ซึ่งมันขัดแย้งกับโลกความจริงอันโหดร้าย ที่ตัวละครไม่มีวันหนีไปจากดินแดนแห่งนีได้ แล้วก็การเปรียบปีกสีขาวของนางฟ้า และเทวดา ที่เป็นตัวแทนอิสระภาพ พาพวกเขาบินหนีไปจากดินแดนแห่งนี้ได้
การหยิบเอาเมืองที่เกิดจากการล่มสลาย ของโซเวียด มาเปรียบเทียบกับ ตัวละคร
ตัวละครก็ เปรียบเหมือนกับเมืองบ้านเกิดของเธอ เมืองที่ ได้ล่มสลายไปแล้ว เมืองที่หายไปพร้อมกับกาลปัจุบัน เมืองที่ไม่มีใครอยากที่จะอยู่ ก็ไม่ต่างจากตัวละครซึ่งไม่นานเขาก็จะตายไปกับดินแดนยากไร้แห่งนี้ ตายไปด้วยความหดหู่ เศร้าหมอง โดดเดี่ยว
" ถ้าเกิดว่าปีกสีขาวมีจริง ปีกนี้ช่วยพาฉันออกไปจากดินแดนแห่งนี้เสียเถอะ"
คะแนน A