วันพุธที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2556

" ชนะใจตัวเอง นั้นยิ่งใหญ่ที่สุด " Little miss sunshine

                                                    Little miss sunshine

                                                   

(U.S,2006,Jonathan dayton )

                                                   

                                              
                             " ชนะใจตัวเอง นั้นยิ่งใหญ่ที่สุด "  


บทวิจารณ์ และ วิเคราะห์


                        "พวกเราอาจเป็นเหมือนรถกระป๋องคันที่ไม่สมบูรณ์  แต่มันก็สามารถถึงเส้นชัยได้ถ้าพวกเราช่วยกัน"

  "คนที่เกิดขึ้นมาในโลกใบนี้มีอยู่สองประเภท คือ หนึ่ง ผู้ชนะ และ อีกอย่าง คือ ผู้แพ้  คงไม่มีใครที่จะอยากเกิดมาเป็นผู้แพ้หรอก แต่จะมีซักกี่คนมั้ยที่ยอมรับความพ่ายแพ้นั้น และมีความสุขร่วมกับมันกับมัน
อย่างน้อยก็มี ครอบครัวหนึ่งนี่แหละแพ้อย่างภาคภูมิใจ"


การเขียนบล๊อกของผมวันนี้ต้องบอกก่อนว่า ผมภูมิใจนำเสนอหนังเรื่องหนึ่ง สัญชาติอเมริกา  ที่มีชื่อเรื่องว่า  little miss sunshine  ถ้าแปลเป็นภาษาไทยตรงๆมันจะหมายความว่า  พระอาทิตย์ส่องแสงอันน้อยนิด  หลายคนอาจคิดว่านี่มันหนังหดหู่ หม่น น่ากลัว หรือคิดไปกว่านั้น ผมอยากบอกว่ามันไม่ใช่อย่างที่คุณคิด  หลังจากที่ผมดูจบแล้วความอบอุ่นและความประทับใจของหนังเรื่องนี้  มันสามารถเอาชนะใจผมได้จริงๆ  หนังมันเล่าเรื่องของครอบครัวหนึ่งตะกูล hoover ที่พร้อมที่จะเป็นผู้แพ้ด้วยคุณสมบัติของเหล่าสมาชิกทั้งหมดในครอบครัว ซึ่งก็ประกอบด้วย  พ่อ ผู้ชายที่บ้าเรื่องทฤษฏี 9 ขั้นของการเป็นผู้ชนะ  และเขาเชื่อว่าต้องทำให้ได้
แม่ หญิงสาวอารมณ์ขึ้นลง ติดบุหรี่ และจะเลิกมัน  ลูกชาย เด็กหนุ่มผู้ซึ่งสัญญากับตัวเองว่าจะไม่พูดกับใครจนกว่าจะเข้าการบินได้     ลุง หนุ่มชาวเกย์พยายามที่จะฆ่าตัวตายเนื่องจากอกหัก พยายามทำชีวิตให้ดีขึ้น    คุณปู่ติดโคเคน พยายามเลิกให้ได้  และที่สำคัญจะขาดไม่ได้ คือ  หนูน้อย ที่ฝันว่าจะเป็นนางงาม


ตัวละครทุกตัวในเรื่องมันมีความอยากเป็นผู้ชนะด้วยกันทั้งหมด ชัยชนะที่ขัดแย้งกับความเป็นผู้แพ้ที่มีอยู่ในแต่ละคนของครอบครัว คือ ใจอยากที่จะชนะ แต่ด้วยคุณสมบัติที่ทำให้พวกเขาไม่สามารถชนะได้ ในความเป็นจริง


จะว่าไปหนังเรื่องนี้มันเป็นหนังในแง่การให้กำลังใจคน ในการต่อสู้ชีวิต ซึ่งเป้าหมายแต่ละคนที่เกิดมาก็ไม่เหมือนกันในหลักความเป็นจริงบนโลกใบนี้ บางคนก็ตั้งเป้าหมายสูง บางคนก็ไม่สูงมาก หรือบางคนก็ไม่เคยคิดที่จะตั้งเป้าหมายไว้เลย ซึ่งอย่างนั้นผมว่าน่ากลัว แต่ถ้าบางคนตั้งไว้แล้วดันไปไม่ถึง จะทำอย่างไรให้มีความสุขในจุดนั้น จุดที่เขาไปไม่ถึงและยอมรับมัน ผมว่าเรื่องนี้มันอยู่ที่ใจของเรามากกว่า ถ้าใจเราเพียงพอกับสิ่งที่เราทำได้แค่นั้น หรือ อย่างน้อยเราได้ทำแล้ว ถึงจะไม่สำเร็จ หรือ เป็นผู้ขนะ  เราก็เป็นผู้แพ้อย่างภาคภูมิใจ  หนังทำสื่ออกมาได้ดีเอามากๆ


ความสนุกของตัวละครทุกตัวในหนังเรื่องนี้ต้องบอกเลย มันสนุกทุกตัว มีมุขตลก และแต่ละคนในครอบครัวมันมีความเพี้ยนไปคนละแบบ มันจึงทำให้ผมรู้สึกสนุกไปกับตัวละครทุกตัว หนังดำเนินเรื่องไปในแบบหนังแนว road movie โดยใช้พาหนะเดินทางผจญภัย เป็นรถ คัันสีเหลืองที่สภาพพร้อมที่พังได้ทุกเมื่อ

ฉากไหนที่ผมชอบมากที่สุดคงหนีไม่พ้น ฉากตอนจบที่หนูน้อย olive เข้าประกวดเวทีหนู้น้อยความสามารถ ท่ามกลางเด็กน้อยน่ารักเต็มไปด้วยความสามารถ ซึ่งเธอก็ดูเหมือนว่าจะเป็นแกะดำ ซึ่งเต้นไม่เก่ง และดูเหมือนไม่มั่นใจเอาซะเลย  แต่ด้วยความกล้าบ้าบิ่น ขณะที่เด็กน้อยคนอื่นๆเต้นเพลงน่ารักๆใสๆแบบเด็กๆ  เธอเลือกเพลงที่ต่างออกไป พร้อมท่าเต้นที่ดูแล้วยั่วยวน ผมขอใช้คำว่า แก่แดด เกินเด็กละกัน ทำให้คนดูรู้สึกไม่พอใจและดูถูก ลุกหนีไปตามๆกัน ทั้งคณะกรรมการ จนต้องให้พิธีกรชายบนเวที่เชิญออก และบอกให้พ่อของเธอมาเอาออกกลับไป ถ้าพ่อของเธอมาเอาออกไปหนังมันคงจะดูธรรมดาไป    แต่หนังมันทำให้ผมต้องประทับใจและตะลึงเมื่อจู่ๆ พ่อของเธอ ก็กลับรู้สึกสนุกและเต้นตามลูกสาว จากนั้นสมาชิกที่เหลือก็ร่วมกันเต้นบนเวทีท่ามกลางความขัดแย้งและเสียงโห่ของคนในงาน  ซึ่งมันทำให้ผมรู้สึกประทับใจในความกล้ามากของพวกเขามาก มองอีกมุมนึงคือรู้สึกสงสาร ที่คนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจเขา แต่ผมกลับชอบนะ ซึ่งมันเป็นฉากที่ผมกลับไปดูว้ำแล้วซ้ำอีก  


 ถึงตอนนี้ Little miss sunshine เป็นภาพยนต์ครอบครัว ตลก ดราม่าที่เข้าไปอยู่ในใจของผมเรียบร้อยแล้ว

คะแนน A+







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น