วันเสาร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2557

บทกวีรักอันแสนเศร้า The Fault in our stars

The Fault in our stars 




ความคลาดเคลื่อนของดวงดาว


(U.S,2013,Josh boone)



บทวิจารณ์ และ วิเคราะห์


มีภาพยนต์ไม่กี่เรื่องนักที่มันจะมีอารมณ์และความรู้สึกติดค้างหลังจากดูจบ     มันอินจริงๆนะ มันช่างเป็นบทกวีรักที่เศร้าสร้อยและสวยงามมาก                                                                                 

            สมกับที่ผมรอคอยมานาน ในที่สุดลัพธ์คือความอิ่มเอมใจเมื่อดูหนังเรื่องนี้จบ ชอบมากครับ มันเป็นเรื่องของชายหญิงคู่หนึ่งที่พยายามโหยหาความรัก ในห้วงเวลาสุดท้ายของชีวิตที่พวกเขาเหลืออยู่ ทั้งคู่เป็นมะเร็ง                                                                                                             
                                                                                                  
ในความระทมทุกข์ดูเหมือนว่าตัวละครทั้งสองไม่ยอมที่จะจมจ่อมอยู่ในโลกอันแสนมืดมน พวกเขาพยามที่จะหนีจากพื้นที่ตรงนั้นออกมา ทำตัวเองให้มีความสุขตลอดเวลา ให้กำลังใจกันและกัน มันมีความสว่างอยู่นะเพียงแต่มันถูกซ่อนอยู่ในความมืดหม่นที่ปกคลุมตัวละครทั้งสอง หนังไม่ได้พาคนดูไปเจอกับความโชคร้าย ชะตากรรม ความยากลำบาก หรือความเศร้าหมองที่ตัวละครต้องเจอมากนัก แต่เลือกที่จะเล่าในแบบ romance หวานซึ้ง มองโลกในแง่ดี ให้กำลังใจตัวละครและคนดูมากกว่า                                                                                                                              
                                                                                                                  
ผมมองว่า ตัวละครชายและหญิง พวกเขาพยามที่จะเดินอยู่ในกรอบโลกของความรัก ให้ได้นานที่สุด ถึงแม้พวกเขาจะรู้อยู่แก่ใจว่าอีกไม่นานต้องมีใครคนใดคนหนึ่ง หรือทั้งสองต้องตายจากกัน ผมชอบที่มันเป็นการโหยหาความรักแบบไม่มีที่สิ้นสุด         (Love in infinity)                                           
    
                                                                     
หนังไม่ได้มุ่งไปแค่ความรักของเด็กสาวและชายหนุ่มอย่างเดียว พวกเขาทั้งสองยังมีพ่อและแม่ของพวกเขา คอยให้กำลังใจและอยู่เคียงข้างตลอด มันทำให้รู้สึกว่า ตัวละครมันไม่ได้เดินอยู่บนโลกเพียงลำพังนะ รอบๆตัวยังมีความรักที่ห่อหุ้มพวกเขาอยู่ อาจเพียงแค่พวกเขาโชคร้ายที่ต้องมาเจอแบบนี้มากกว่าเท่านั้นเอง                                                                                                    

                                                                                               
ฉากและแสงสวยมากสำหรับหนังเรื่องนี้ สมกับที่เป็นหนังที่ถูกทำต่อจากหนังสือนวนิยายรัก


ปล   ชื่อและที่มาของเรื่องทำไมถึงหนังเรื่องนี้ถึงใช้ชื่อว่า  The fault in  our stars       

Fault ถ้าแปลเป็นภาษาไทยหมายถึง ความคลาดเคลื่อน  หรือ  ผิดแปลกออกไป                   
ในเรื่องนี้เป็นความรักของคนสองคนที่ยังไงก็ตามมันไม่สามารถที่จะรักกันได้ตลอด เพราะเขทั้งคู่เป็นผู่ป่วย มันมีสิ่งที่ทำให้คนสองคนต้องคลาดและแยกออกจากกัน         our stars  อาจเปรียบเทียบกับ ความรักของคนทั้งสอง  เมื่อมารวมกีนแล้ว จึงหมายความว่า  ความรักของชายหญิงที่ยังไงก็ต้องคลาดเคลื่อนเลื่อนออกจากกัน                                                                                 


คะแนน  A
                                                                         

                                                                                  

                                                                           

" โรงหนังเก่า เธอ กับ ฉัน และภาพในวันวาน " ตุ๊กแกรักแป้งมาก



ตุ๊กแกรักแป้งมาก 



(Thailand,2014, ต้อม ยุทธเลิศ)



" โรงหนังเก่า เธอ กับ ฉัน และภาพในวันวาน "



บทวิจารณ์ และ วิเคราะห์



ถวิลหาอดีตแบบสุดขั้ว น่ารัก เรียบง่าย และ งดงามมาก

ความรู้สึกเหมือนผมได้ย้อนเวลากลับไปหาวันวานเหล่านั้นอีกครั้ง ในห้วงของความเป็นเด็ก มีเพื่อนสนิทเป็นผู้หญิง เล่นกัน แอบชอบแต่ไม่กล้าบอก หนังดีนะ ที่เขารีวิวก่อนที่จะไปดู่ว่ามันคล้ายๆและให้อารมณ์แบบ แฟนฉัน ผมเห็นด้วยเลย มันมีอารมณ์และบรรยากาศแบบนั้นจริง เพียงแต่ ตุ๊กแกรักแป้ง เลือกที่จะเล่าแบบเด็กไปสู่ช่วงวัยหนุ่มสาว แต่แฟนฉันกลับเลือกที่จะเล่าแบบ ห้วงเวลาปัจุบันตอนโต แล้วย้อนกลับไปในวัยเด็ก นั่นคือจุดที่แตกต่างกันครับ แต่สิ่งที่ชอบมากนั่นคือ ฉาก ต่างๆ ภาพขาวดำที่ปรากฎอยู่ในหนัง บรรยากาศมันถวิลหาอดีตได้งดงามมาก ไม่ว่าจะเป็น บรรยากาศของโรงหนังเก่า ขนมไข่จิ้งจก (ลูกกวาดสีสันจัดจ้าน) และของเล่นในตอนนั้น (ปืนแก๊บไม้) กล้องโพราลอยสีแดงสด ม้วนฟิล์มเก่าๆที่ใชัฉายหนัง. ชื่อของหนังไทยที่โด่งดังในสมัยก่อน (รุ่นพ่อรุ่นแม่เรา) ภาพโปสเตอร์หนังไทยโบราณระบายสีที่เราไม่สามารถเห็นได้ในยุคนี้ หรือแม้กระทั่ง soundtrack ที่เอาเพลงเก่าในยุคสตริงคอมโบ มาใช้ ทั้งหมดที่ผมกล่าวมานั้น ทำหน้าที่เป็นตัวแทนของความเป็นอดีต ย้อนยุค                                           

ชอบเพลงสตริงคอมโบในยุคนั้นมากครับ มัน น่ารักและมีเสน่ห์อย่างบอกไม่ถูก                                

สิ่งที่ต้องชมเลยคือหนังเรื่องนี้เลือก location ที่ถ่ายในเชียงคาน จ เลย ซึ่งมันเป็นสถานที่ที่ขึ้นชื่อของความเก่า คลาสสิค ย้อนอดีต ซึ่งมันถูกที่ถูกเวลามาก      ซึ่งแน่นอนครับคงจะต้องชมคุณ ต้อม ยุทธเลิศ ผู้กำกับที่เลือก location นี้    จึงทำให้บรรยากาศต่างๆมันเข้ากันหมด                                                                     
ผมจึงคิดว่าหนังเรื่องนี้มันพาคนดูย้อนกลับไปในห้วงเวลาของความเป็นเด็กอีกครั้ง เพราะฉะนั้นคนดูในโรงที่ชอบหนังอารมณ์แบบนี้ รวมถึงผมจะออกจากโรงด้วยรอยยิ้ม ที่อิ่มเอม กลับบ้านไปคงจะไม่แปลกอะไร เพราะหนังมันน่ารักจริงๆครับ

คะแนน B+