วันจันทร์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

" ถ้าเรามัวแต่ตามคนอื่น ตัวเราเองจะสูญหาย" Marry is happy Marry is happy


Mary is happy Mary is happy



(Thailand ,2013, เต๋อ นวพล)


" ถ้าเรามัวแต่ตามคนอื่น  ตัวเราเองจะสูญหาย"


บทวิจารณ์ และ วิเคราะห์



บทความนี้เปิดเผยเนื้อหาบางส่วนของภาพยนต์

ก่อนหน้านี้ผมเห็นภาพตัวอย่างจากหนังเรื่องนี้ก่อนที่จะเข้าโรงฉายแบบจำกัด  จากนิตสาร bioscope ฉบับหนึ่ง  นิตยสารคนรักหนังโดยเฉพาะ    แล้วมองเห็นว่า นี่คือหนังใหม่ของ เต๋อ นวพล   อย่างแรกเลยที่คิดในใจ    รีบๆเข้าโรงเถอะนะผมจะรีบไปดู   กระแสของ mary is happy  mary is happyยังถูกพูดถึงมากมายในวงการหนังไทยอินดี้    อย่างแรกผมดีใจที่นักดูหนังรุ่นใหม่ๆ เปิดใจและให้ความสนใจกับหนังทางเลือกของบ้านเราเยอะขึ้น     ในยุคที่โลกนั้นหมุนไปเรื่อยๆ มันย่อมมีสิ่งใหม่ๆ ผุดขึ้นมาเรื่อยๆครับ เฉกเช่นเดียวกับธรุกิจของภาพยนต์ไทยอิสระ และภาพยนต์ เรื่องนี้ก็ถือกำเนิดมาอย่างเงียบๆ   ครับ                                            
นี่เป็นผลงานลำดับ 2แล้ว ของผู้กำกับหนังอิสระที่น่าจับตามองที่สุดใน พศ นี้  เต๋อ นวพล   ผู้กำกับที่ได้ขึ้นชื่อใช้ภาพในการเล่าเรื่องราว พร้อม text สวยๆ  บรรยายประกอบฉากในแต่ละฉาก จะเห็นได้จากผลงานเรื่องแรกอย่าง 36  หนังที่มีความยาวเพียงชั่วโมงเศษๆ เท่านั้น  มาถึงเรื่องนี้  Mary is happy mary is happy  ยังใช้สูตรเดิมเช่นเคย     ความสะเปะสะปะ ความไม่ปะติดปะต่อในเรื่องราว ที่ดูเหมือนว่าจะทำออกมากลายเป็นหนังอาร์ตแฝงนัยยะอย่างแปลกประหลาด การเล่าเรื่องที่ดูแปลกและแตกต่างไปจากหนังไทยเรื่องอื่นๆอย่างสิ้นเชิง    แต่ทว่าความแปลกและแตกต่างนั้นแปรเปลี่ยนเป็นความน่าสนใจจากแฟนหนังรุ่นใหม่ๆ รวมไปถึงนักวิจารณ์ภาพยนต์        ได้พอสมควร   และยังไปไกลถึงเวทีต่างประเทศถือว่าไม่ธรรมดาเอามากๆครับ   

บอกก่อนว่าหนังเรื่องนี้ถูกสร้างจากทวิตเตอร์ของ แมรี่ จำนวน 410 ข้อความ 
2 ชั่วโมงเศษๆ มีอะไรเกิดขึ้นและอยู่ในหนังสุดแนวเรื่องนี้บ้างเรามาดูกันเลยครับ   
marry is happy mary is happy นั้นเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ ชีวิตประจำวันในโรงเรียนประจำแห่งหนึ่ง ของ สองสาว  แมรี่ และ ซูริ โดยมุ่งไปที่ตัวละครหลักอย่าง แมรี่  สาวสุดแนว  อารมณ์ติสต์ ช่างฝัน   ที่อยู่ในช่วงกำลังจะจบจากมัธยมปลาย และทั้งสองคิดจะทำหนังสือรุ่น เพื่อเป็นอนุสรณ์ให้กับโรงเรียน ก่อนจะลาจากไป   แล้วไอ้โรงเรียนที่ว่า uniform หน้าตาโครตจะประหลาดคือ ชุดสีแดงสลับขาวคล้ายชุดเชียร์ลีดเดอร์เมืองนอก   กระเป๋าสีแดงสด ราวกับว่าถูกทาสี  แมรี่นั้น หลงรักผู้ชายคนนึงที่ชื่อ m (มอร์ ten to 12 )  คนที่เธอเจอเขาครั้งแรกที่ร้านขนมโตเกียว  หลังเลิกเรียน  ทุกเย็นเธอจะมารอเขา    แต่ในเรื่องนี้มันไม่ได้มีอยู่แค่นั้นหนังยังซ่อนลายระเอียดที่หลบอยู่ในความสามัญดาษดื่น  ของเรื่องราวอีกมากมาย
จะว่าไป mary is happy  mary is happy มันเหมือน ไดอารี่ที่เล่าเรื่องของ  เด็กสาวคนนึง จำนวน 410 ฉบับเรื่องราวที่ทำออกมาแบบไม่ประติดประต่อ  จับต้องไม่ได้มากนัก แต่ความน่าสนใจอยู่ที่วิธีการนำเสนอ ของ เต๋อ ผ่านมุมมองตัวละคร เด็กสาววัยรุ่น ตัวละครที่อยู่ในช่วงกำลังพ้นวัย (coming of age)  แมรี่ที่ต้องเจอเรื่องต่างๆ มากมาย  ความสัมพันธ์กับเพื่อนรัก ซูริ   งานหนังสือรุ่นที่รับมอบหมายให้ทำ   และเรื่องความรักของเธอกับเด็กหนุ่ม    สิ่งเหล่านี้มันผ่านเข้ามาพร้อมๆกัน ทำให้เด็กสาวต้องเรียนรู้ และเจออุปสรรค และต้องผ่านมันไปด้วยดี

ตัวละคร แมรี่ ทำหน้าที่ของอารมณ์และความรู้สึก มากกว่า เหตุผล 
แมรี่เป็นเด็กอินดี้  ช่างฝัน ช่างจินตนาการ เวิ่นเว้อ มีวิธีคิดที่ผมมองว่า ตัวละครตัวนี้มันมีความน่าสนใจ  และแตกต่างจากเด็กสาวคนอื่นๆ   ตัวละครที่มีคำถามในหัวตลอดเวลาว่า ทำไมต้องเป็นแบบนี้ เพราะอะไร  ซึ่งเราจะได้ยินประโยคพวกนี้หลุดออกจากปาก วัยรุ่นช่างสงสัย  วัยที่กำลังเรียนรู้อะไรบางอย่าง  บางครั้งแมรี่ก็ดูเหมือนว่าจะใช้อารมณ์ความรู้สึกดิบๆในตอนนั้นทำในสิ่งที่เธอต้องการ เพราะอยากทำแบบนั้น  หลายฉากคนอาจจะคิดว่า ทำไมแมรี่ต้องทำแบบนั้น อาทิ ฉากที่แมรี่ กับ ซูริ ไปปล้นเค๊กเพราะอยากกินเค๊ก หรือหลายๆฉากก็ตามแต่  หรือพูดบางสิ่งออกมาที่ผู้ใหญ่หลายคนฟัง อาจจะไม่เข้าใจและดูเหมือน ไร้แก่นสารไม่มีเหตุผล เลื่อนลอย ก็เพราะอารมณ์เธอตอนนั้น อารมณ์ที่อาจยังไม่ผ่านกระบวนการวิเคราะห์  
ที่ผมพูดอย่างนี้เนื่องจากหนังมันเต็มไปด้วยความรู้สึก ความไม่แน่นอนในชิวีตคนเรา  บางสิ่งที่เราอาจหาเหตุผลจากมันได้ บางสิ่งที่มันถูกกำหนดมาเป็นแบบนั้น และเราไม่สามารถหาคำตอบจากมันได้   เช่นฉาก รางรถไฟ บทสนทนระหว่าง แมรี่ กับ ซูริ ดังขึ้น  แมรี่ถามซูริ ว่า ทำไมเราต้องเดินรางขวา เพราะเราถูกำหนดให้เดินรางขวา แล้วถ้าเราขัดขืนขะเดินรางซ้าย มันจะเกิดอะไรขึ้น  แล้วคำถามต่อมาทำไมเราไม่เดินรางซ้ายตั้งแต่แรกละ หรือ สิ่งที่แมรี่พูดว่า ถ้าเกิดว่าตื่นมาแล้วอยากกินก๋วยเตี๋ยวมันต้องมีเหตุผลปะ    คือจะบอกทุกอย่างมันไม่มีเหตุผลอะไรตายตัวนักหรอก แม้แต่ความรักของแมรี่ ที่ไม่สามรถคาดเดาอะไรได้เลย
ถึงขนาดแมรี่ยังหาหนังสือสูตรคำนวณความเป็นไปของอนาคต   แต่แล้วสิ่งเหล่านี้นั้นถูกมองว่าไม่มีจริงเป็นเพียงแค่จินตนาการเสริมแต่งของ ตัวละครแมรี่เท่านั้น   
ในหนังยังพูดถึงวิชาหนึ่งที่เกี่ยว กับ ประวัติผอ  จึงถูกตั้งคำถามขึ้นมาว่าเราเรียนวิชาเหล่านี้ไปทำไมกัน หรือความจริงมันถูกกำหนดในหลักสูตรว่าต้องเรียน คำถามตามมาถ้ามีในหลักสูตรจริงแล้ว เรียนไปแล้วได้อะไร   มีคำถามวนเวียนมากมายของชีวิตคนเราว่า ทำไมต้องแบบนี้ ทำไมต้องแบบนั้น   อยู่เรื่อยไปซึ่งก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ว่าแท้จริงแล้วโลกนั้นตั้งคำถามกับทุกสิ่ง หรือบางสิ่งในชีวิตของคนเรามันก็หาคำตอบไม่ได้หมด  อาจจะเป็นเพราะกฏของจักรวาลที่กำหนดไว้แล้ว                              
สิ่งที่เป็น conflict อุปสรรค กับตัวละครแมรี่ อาจจะเป็นเรื่องราวต่างๆที่ผ่านเข้ามาในชีวิตแมรี่ ทำให้ตัวละครตัวนี้ มีช่วงเวลาที่ค่อนค่างเคว้งคว้างสับสนอยู่พอสมควร    ซูริเพื่อนรักของเธอตาย   รักไม่สมหวัง  แถมยังมีงานหนังสือรุ่นที่ต้องทำให้เสร็จก่อนจะจบอีกด้วย     ถ้ามองย้อนกลับไปผมว่าวัยรุ่นหลายคนมันต้องเคยผ่าน confuse moment ในอดีตกันทั้งนั้น
   
สิ่งที่ชอบคือ พี่เต๋อ นวพล หยิบเอาเรื่องใกล้ตัววัยรุ่นมาเล่า แบบไม่ปรุงแต่ง ซึ่งนี่แหละผมมองว่า วัยรุ่น  ชีวิตวัยรุ่นเต็มไปด้วยความ เวิ่นเว้อ ช่างฝัน ความไร้แก่นสาร ความอยากรู้อยากเห็น การทดลอง   สภาวะทางอารมณ์มากกว่าเหตผล  แม้แต่ความรักแรกเริ่ม ซึ่ง dialouge ก็มาแบบดิบๆ มีคำแสลงแบบไม่เสริมแต่งของตัวละคร  สิ่งที่เราได้ยินกันในชีวิตประจำวันจากปากวัยรุ่น มันก็เป็นแบบนี้แหละ  ซึ่งบางครั้งคนเรามองข้าม detail เหล่านี้ไป    นั้นคือสิ่งที่ผมชอบและ เต๋อ นวพลก็ทำออกมาให้เห็น    แต่ในความธรรมดาพี่เต๋อยังใส่ ความ surreal ของฉากมากมาย

หนังเรื่องนี้ยังได้ อาทิตย์ อัสสรัตน์   ผู้กำกับหนังเรื่อง wonderful town มากำกับภาพ ด้วยซึ่งไม่แปลกเลยที่จะเห็นหลายๆฉากที่ดูแล้วสวยเป็นธรรมชาติ  
นักแสดงรับเชิญทำได้ดีเกือบทุกคน อาจารย์ประจำวิชาของโรงเรียนนี้ ชอบสุดคงเป็น อ โฮมรูม พี่น้อย วงพรู แกเล่นฮาดี  มาแบบนิ่งๆแต่ขำครับ  มีพี่เล็ก greesy cafe เล่นเป็น อ ถ่ายภาพ     มีพี่ คงเดช อ สอน drama  พี่ คุ่น ปราบดาหยุ่น อ กิจกรรม   ซึ่งชิงออกจากโรงเรียนนี้ก่อน     มี ผอ ผู้ซึ่งหนังกล่าวไว้แต่ไม่ได้ออกฉาก  พี่ สุกี้  

โดยรวม แล้ว มันไม่ใช่หนังติสต์แตกดูยากอะไรนักหรอกตามความรู้สึกผม มันเรียบง่ายมากเพียงแต่มีการนำเสนอที่แปลก น่าสนใจ  และแตกต่าง จากหนังไทยเรื่องอื่นๆเท่านั้น     mary is happy  mary is happy อาจเป็นเพียงส่วนประกอบของ กระดาษจำนวน 410 ข้อความทวิตเตอร์ ที่ดูเหมือนจะสะปะสะปะ แต่ก็มารวมๆ จนได้  สมุดไดอารี่เล่าเรื่องราวของเด็กสาว  แต่จะว่าไปมันก็เป็น สมุดไดอารี่ที่แสนงดงาม และพร้อมให้คุณเปิดอ่าน เสมอ  


คะแนน A








ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น