วันจันทร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2556

ความเหงาของจิ้งจกตัวสุดท้ายบนจักรวาล Last life in the universe

                                                          The Last Life in the universe
                                     
                                                   


                                   "ความเหงาของจิ้งจกตัวสุดท้ายบนจักรวาล"

                             (Thailand, 2003, เป็นเอก รัตนเรือง )





บทวิจารณ์ และ วิเคราะห์

 จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณไม่มีเพื่อน หรือไม่มีครอบครัว  ไม่รู้จักคนรอบข้าง ใช้ชีวิตตามลำพัง หรืออยู่ตัวคนเดียวบนจักรวาลใบนี้  หนังเรื่องนี้เล่าถึงเคนจิ ซึ่งได้ ทาดาโบบุ อาซาโน่ มารับบทเป็น หนุ่มญี่ปุ่น ผู้ซึ่งมาอาศัย อยู่ในเมืองไทย โดยที่เขาไม่รู้จักใครเลยซักคน  ใช้ชีวิตท่ามกลางความเหงา  อ่านแต่หนังสือ อยู่ในห้องที่เต็มไปด้วยหนังสือหลายพันเล่ม ปราศจากทีวี เครื่องใช้ไฟฟ้าอำนวยความสะดวก  และพยายามที่จะฆ่าตัวตายด้วยวิธีการหลากหลายบ่อยครั้ง และไม่ทราบสาเหตุ เพียงเขาบอกว่าการตายคือการพักผ่อนที่ดีอย่างหนึ่ง แล้วไปตื่นอีกทีในชาติหน้าด้วยความสดชื่น  ฟังดูแปลกๆนะครับ
ดูหนังเรื่องนี้แล้ว ความเหงาจะพาเรา ค่อยๆซึมแทรกผ่านจิตใจของเราไปอย่างช้าๆ และสวยงาม  ดูความแปลกแยก โดดเดี่ยว ของ ตัวละครที่ชื่อเคนจิ  เปิดเรื่องจะเห็นว่าเขากำลังพยายามจะแขวนคอฆ่าตัวตาย แต่ไม่สำเร็จเมื่อมีคนเข้ามาเคาะห้องของเขา เป็นพี่ชายที่รู้จักกันกับเขา  และแล้วทุกสิ่งทุกอย่างได้เปลี่ยนไปเมื่อเคนจิได้พบกับหญิงสาวคนหนึ่งที่ชื่อน้อย เธอเป็นพี่สาวของนิด  เธอเข้ามาเปลี่ยนแปลงโลกแห่งความอ้างว้าง โดดเดี่ยวของเขา ให้สวยงามมากขึ้น  และทำให้เคนจิได้มีช่วงเวลาที่ดีกับใครซักคน อาจเป็นช่วงเวลาสั้นๆ  เป็นโลกที่เขาไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน   เขาว่ากันว่าการที่คนสองคนมาพบกันและรู้จักรักกันมันต้องมีแรงดึงดูดอะไรบางอย่างที่ทำปฎิกิริยาต่อกัน     ความรักสำหรับหลายคนคงเป็นแค่เรื่องเล็กน้อย  แต่สำหรับเคนจิแล้วความรักของเขาช่างยิ่งใหญ่มหาศาลเหลือเกิน


หนังพาเราไปเห็นพฤติกรรมการอยากทดลองฆ่าตัวตายของเคนจิ   ในเรื่องเราจะเห็นได้ว่าเขาพยายามหลายวิธีมาก แต่สุดท้ายเขาก็ไม่ทำ เป็นเหมือนว่าเขาแค่อยากใกล้ชิดคามตายเท่านั้น แต่ยังไม่อยากตายจริงๆ

บรรยากาศของหนังที่อบอวลไปด้วยความอ้างว้าง  โดดเดี่ยว  ของตัวละคร ฉากเหงาๆ  Soundtrack  เพื่อทิ้งช่องว่างอามณ์คนดูได้ปลดปล่อยความคิดล่องลอยไป ถือเป็นเสน่ห์ของหนังเรื่องนี้เลย


เราจะสังเกตุว่าหนังเรื่องนี้ เราจะเห็น นิด อยู่บ่อยๆ ทั้งที่จริงตายไปแล้ว  มันเป็นเพียงความคิดในจิตนาการของเคนจิเท่านั้น


ความสวยงามของหนังเรื่องนี้ผมว่าอยู่ที่บรรยากาศความเหงา  ฉากต่างๆ ล้วนๆ 


การเปรียบเทียบสิ่งที่ตรงกันข้ามของหนังเรื่องนี้   มีอยู่ให้เห็นเต็มไปหมด

คะแนน  A+

 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น